รีวิวจัดหนัก 3G แพคเกจ AIS ปะทะ DTAC !!!

หลังจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละราย พลาดการประมูลคลื่นความถี่ 3G 2100 MHz ซึ่งล้มการประมูลไปเมื่อ เดือนกันยายน 2553 ที่ผ่านมา ค่าย AIS และ DTAC ดูจะเหนื่อยหน่อย สำหรับการลุยเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม ในขณะที่ Truemove อาศัยเทคนิคและสายสัมพันธ์อันดีงามกับ CAT เปิดให้บริการล่วงหน้าไปนานแล้ว (บนคลื่นความถี่ 850 MHz)

และเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 ค่าย AIS ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 900 MHz อย่างเป็นทางการ (หลังจากทดลองเปิดให้บริการมาปีกว่า) และไม่ปล่อยให้ทิ้งห่าง วันที่ 16 สิงหาคม 2554 ค่าย DTAC ก็เปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ด้วยเช่นกัน

ทั้งค่าย AIS และ DTAC ต่างประสบปัญหาคล้ายๆ กัน คือ ลูกค้าจะใช้บริการได้ ก็ต่อเมื่อ ใช้เครื่องโทรศัพท์ที่รองรับ 3G (HSPA) บนคลื่นความถี่ 900 MHz หรือ 850 MHz และสิ่งที่ทั้งสองค่าย เอาใจลูกค้าเดิมเหมือนกัน ก็คือ การปล่อยสัญญาณ EDGE ให้ได้ความเร็วสูงสุด 384 bps (ซึ่งเป็นความเร็วต่ำสุดของ 3G) ให้กับลูกค้าที่เครื่องรองรับ และอยู่ในพื้นที่ให้บริการ 3G

จากที่เคย รีวิวแพคเกจ 3G ค่าย AIS ไว้เมื่อครั้งเริ่มเปิดให้บริการ เมื่อ DTAC เริ่มเปิดให้บริการเช่นกัน แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในเรื่องคลื่นความถี่ แต่ถ้าเครื่องโทรศัพท์รองรับได้ทั้งคลื่น 850 MHz และ 900 MHz การเลือกใช้โปรโมชั่น หรือ แพคเกจเสริม 3G ของทั้งสองค่ายนี้ จึงเป็นสิ่งที่เปรีัยบเทียบกันได้ “นายอบอุ่น” จึงขอทำรีวิวแบบปะทะ มาฝากอีกครั้งครับ

เรื่องความเร็วสูงสุดของ 3G ทั้งสองค่าย ต่างโปรโมทว่ารองรับความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps ทั้งที่ข้อเท็จจริงมีข้อจำกัดมากมาย นอกจากนี้ ก็ยังเรียกความเร็ว 384 Kbps ว่าเป็น 3G ด้วยเช่นกัน (ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะ EDGE นั้น ความเร็วสูงสุดเพียง 236 Kbps) แต่เพื่อไม่ให้สับสน “นายอบอุ่น” ขอไม่นับ 384 Kbps ว่าเป็น 3G แล้วกันนะ (ถือเป็นความเร็วพื้นฐานที่ทั้งสองค่าย Upgrade ให้กับ EDGE แล้วกัน)

แพคเกจเสริม 3G

ใครมีโปรโมชั่นหลักอยู่แล้ว ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ก็สามารถสมัครแพคเกจเสริม 3G ได้ครับ แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง อย่างเช่น Blackberry ไม่สามารถสมัครได้ ตรวจสอบรายละเอียดก่อนสมัครนะครับ

ค่าย AIS ด้วยความที่เปิดตัวก่อน ถือว่า มาเต็มเหมือนกัน ถ้าใครจำได้ แพคเกจเสริมแบบคิดตามปริมาณข้อมูล (Volume Based) ก่อนเปิดให้บริการ 3G แพคเกจ 99 บ. ได้แค่ 30 MB เอง หรือแพคเกจ 400 บ. ก็ได้แค่ 500 MB เอง แต่พอเปิดให้บริการ 3G ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง 3G และ EDGE จัดเริ่มต้นที่ 150 บ. ใช้ได้ 150 MB ซะเลย ขาประจำ Volume Based ถูกใจยิ่งนัก แต่ก็เตือนๆ กันอยู่ว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ล้นแพคเกจได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ AIS ยังได้เปรียบอยู่ไม่น้อย เมื่อแพคเกจใหญ่ รวมการใช้บริการ Wi-Fi เข้าไปด้วย อย่างกรณีแพคเกจ 550 บ. และ 799 บ. อีกทั้งยังเอาใจลูกค้าที่ยังไมุ่คุ้นกับ Volume Based ด้วยการเปิดให้บริการ 3G แพคเกจแบบ Time Based ซึ่งไม่ค่อยมีใครกล้าทำนัก ด้วย 150 บ. ใช้ได้ 30 ชม. แต่ก็จำกัดความเร็วสูงสุดของ 3G อยู่ที่ 1 Mbps นะ ทำเอาลูกค้า EDGE ที่จ่าย 100 บ. ได้ 20 ชม. ลังเลได้เหมือนกัน

ค่าย DTAC เปิดตัวด้วยแพคเกจต่ำสุดเพียง 99 บ. (75 MB) และมี 199 บ. (250 MB) ถือว่าเจาะเน้นช่องว่างของ AIS ที่เปิดก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี (150 บ. และ 350 บ.) แต่พอเทียบราคาต่อ MB แพคเกจเล็กของทั้งคู่ ก็เป็นเรื่องเหมือนกันนะครับ
– AIS  150 บ. (MB ละ 1 บ.)  / 350 บ. (MB ละ 34 สต.)
– DTAC  99 บ. (MB ละ 1.32 บ.) / 199 บ. (MB ละ 79 สต.) / 349 บ. (MB ละ 34 สต.)

แม้แพคเกจ 99 บ. จะดูแพง แต่ที่ DTAC มั่นใจมาก เห็นจะเป็นเรื่อง อัตราส่วนเกินที่กำหนดเป็นจุดขายเลย คือ MB ละ 1.5 บาท ในขณะที่ค่าย AIS  กำหนดตามโปรโมชั่นหลัก ซึ่งมีทั้ง นาทีละ 1 บ. บ้างก็ MB ละ 10 บ. หรือหนักสุด MB ละ 100 บ. ก็เห็นมีกระทู้ใน Pantip

ส่วนแพคเกจใหญ่ของ DTAC ที่เสียเปรียบเพราะไม่มี Wi-Fi ก็แก้เกมด้วยการให้ 3G Limit ที่สูงกว่า คือ 790 บ. (3G/EDGE ไม่จำกัด) ให้ใช้ 3G เต็มความเร็วได้ถึง 5 GB ในขณะที่ค่าย AIS 799 บ. ให้เพียง 3 GB ก่อนถูกปรับความเร็วเหลือสูงสุด 384 Kbps

นอกจากนี้ DTAC ยังเอาใจลูกค้าระบบเติมเงิน ด้วยการเปิดให้บริการแพคเกจใช้ได้ไม่จำกัด (แต่มี 3G Limit) นั่นคือ สัปดาห์ละ 299 บ. ให้ใช้ 3G เต็มความเร็วที่ 1 GB และแบบรายวัน วันละ 49 บ. ให้ใช้ 3G เต็มความเร็วที่ 250 MB ถือว่า (แพง) เอาเรื่องเหมือนกันนะครับ

อีกเรื่องที่ DTAC ดูจะได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด คือ อัตราค่าบริการส่วนเกินแพคเกจ ซึ่งกำหนดไว้เพียง MB ละ 1.5 บ. ในขณะที่ค่าย AIS ว่าเป็นไปตามโปรโมชั่นหลัก ซึ่งทำเอาลูกค้ากังวลอยู่เหมือนกัน

____________________

โปรโมชั่น Smartphone (เพื่อเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน)

ใครไม่อยากยุ่งยาก ซับซ้อน ในการเลือกแพคเกจเสริม ในขณะที่มีความต้องการใช้บริการโทรออก (Voice Call) เป็นประจำอยู่ด้วยนั้น โปรโมชั่น Smartphone ดูจะเป็นทางออกที่ให้ความคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย ทั้งสองค่ายต่างเน้นจัดโปรโมชั่นผสมทั้ง Voice Call และ EDGE มาให้เลือกตั้งแต่ก่อนเปิดบริการ 3G

ล่าสุดเมื่อมีบริการ 3G ต่างก็ปรับให้โปรโมชั่น Smartphone รวมการใช้งาน 3G ไว้ด้วย โดยหลักทั้งสองค่าย เน้นไปที่ระบบรายเดือน แต่ค่าย AIS ก็เปิดให้บริการในระบบเิติมเงินอยู่ด้วยเช่นกันครับ

ค่าย AIS เริ่มต้นด้วยโปรโมชั่นค่าบริการรายเดือน 399 บ. จากเดิมที่เคยให้ EDGE 150 MB พอเปิดให้บริการ 3G ก็มีการปรับให้เป็น 3G/EDGE  250 MB ถือว่า เอาใจลูกค้าสมาร์ทโฟน อยู่เหมือนกัน เปรียบเทียบแพคเกจเสริมที่ตก 1 บ./MB (150 บ. ได้ 150 MB) ดังนั้นโปรโมชั่น 399 บ. ให้ 250 MB ก็ประมาณ 250 บ. บวกกับโทรฟรี 200 นาที (ประมาณ 200 บ.) เท่ากับว่าโปรโมชั่นมูลค่า 450 บ. แต่จ่ายเพียง 399 บ. อะนะ เข้าตำราขายเหมามีส่วนลด ถ้าโทรเยอะหน่อย ใช้งาน Data เยอะอีก ก็มี 599 บ. เป็นทางเลือก หรือ ถ้าหนักสุด อยู่ในพื้นที่ให้บริการ Wi-Fi ด้วย ก็มีโปรโมชั่น 799 บ. และ 999 บ. เป็นทางเลือก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า เน้นการให้โทรฟรีเยอะมาก จึงเป็นเหตุให้ ไม่มี “3G/EDGE ไม่จำกัด” แม้เหมาจ่าย 999 บ. ก็ตาม

นอกจากมีระบบรายเดือนแล้ว ค่าย AIS ยังเปิดให้บริการในระบบเติมเงินอีกด้วย เหมาจ่าย 199 บ. ได้ 3G/EDGE 200 MB (ก็ถือว่าราคาปกติ) แต่ที่พิเศษ ก็คือ ได้ฟรี 100 SMS และ 50 MMS ด้วยนี่แหละ (หลายคนคงบ่น เดี๋ยวนี้ใครยังใช้ก็เชยมากก) แต่ที่ถือว่า น่าสนใจอีกส่วน ก็คือ ค่าโทรนาทีละ 1 บ. เรียกว่าถ้าไ่ม่มีเหมาจ่าย ค่ายนี้คงยากที่จะเห็น นาทีละ 1 บาท (สำหรับลูกค้าเดิม) นะ

อีกส่วนที่ดูจะเน้นสำหรับลูกค้าระบบเติมเงิน ก็คือ ถ้าตัด 199 บ. ไม่ได้ (เพราะลูกค้าเงินไม่พอ) ก็ยังมีบริการตัดครึ่ง 99.5 บ. และ ตัด 50 บ. เพื่อให้ลูกค้าใช้โปรโมชั่นได้ 15 วัน หรือ 7 วัน อีกด้วย (ให้สิทธิฟรี 3G/EDGE และ SMS / MMS แบบตามสัดส่วน) เรียกว่า เก็บทุกเม็ด ใครเลือกโปรโมชั่นนี้ พึงรับรู้เงื่อนไขโปรโมชั่นนี้ด้วยนะ

ค่าย AIS ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น Smartphone ในระบบรายเดือน หรือ ระบบเติมเงิน ส่วนที่เสียเปรียบค่าย DTAC อย่างชัดเจน ก็คือ ค่าบริการส่วนเกิน 3G/EDGE ซึ่งคิด 5 บ./MB (ที่แพคเกจ 199 , 399) และ 2 บ./MB (ที่แพคเกจ 599 , 799 , 999)

ค่าย DTAC  เริ่มต้นด้วยโปรโมชั่นค่าบริการรายเดือนเพียง 199 บ. ซึ่งให้สิทธิโทรฟรี 100 นาที (3 เดือนแรกให้ 125 นาที) แต่ 3G/EDGE ให้เป็น Time Based คือ ใช้ได้ 20 ชม. (3 เดือนแรกให้ 25 ชม.) ความจริงก็ความเร็วสูงสุดเพียง 384 Kbps แ่ต่ DTAC ก็เรียกว่า 3G ใครเลือกโปรโมชั่นนี้ ต้องเข้าใจด้วยนะ

ส่วนโปรโมชั่น 399 บ. ถ้าเปรียบเทียบแพคเกจเสริมที่ MB ละ 79 สต. (199 บ. ได้ 250 MB) ดังนั้นโปรโมชั่น 399 บ. ให้ 200 MB ก็เท่ากับ 158 บ. บวกกับโทรฟรี 200 นาที (ประมาณ 200 บ.) เท่ากับมูลค่า 358 บ. ส่วนต่างอีก 41 บ. DTAC เลือกที่จะแถม 200 SMS และ 50 MMS มาให้ หลายคนอาจบ่น ตัด SMS/MMS แล้วลดค่าบริการรายเดือนลง คงดีอะนะ

โปรโมชั่น 699 บ. ดูจะน่าสนใจสุดๆ เพราะเป็นโปรโมชั่นเดียวกับลูกค้าที่ซื้อเครื่อง iPhone ของ DTAC เลยทีเดียว เทียบง่ายๆ แพคเกจเสริม 3G/EDGE แบบใช้ได้ไม่จำกัด 790 บ. (ใช้ 3G เต็มความเร็วได้ 5GB) แต่โปรโมชั่้นนี้จ่ายเพียง 699 บ. ได้ 3G/EDGE แบบไม่จำกัดเช่นกัน (ต่างกันที่ได้ 3G เต็มความเร็วเพียง 1GB) ยังได้โทรฟรีอีก 350 นาที ได้ฟรีอีก 400 SMS และ 75 MMS ใครไม่แคร์เรื่องความเร็ว 3G จำกัดเพียง 1GB ส่วนต่างถือว่า กำไรมากมายครับ

เพิ่มเติม ตั้งแต่ 1 กันยายน 2554 DTAC ได้ปรับโปรโมชั่น Smartphone ใหม่ “นายอบอุ่น” ได้ รีวิว ใหม่พร้อมประกบโปรโมชั่น 3G ของ Truemove H ไว้ด้วย ที่นี่เลย รีวิวแพคเกจ 3G+ Truemove H ท้าชน AIS & DTAC

____________________

โปรโมชั่น Air Card / Tablet / Net SIM

สำหรับอุปกรณ์ Air Card / Tablet ที่ดูจะไม่สนใจในเรื่องการโทรออก (Voice Call) รวมไปถึงผู้ที่มีโทรศัพท์มากกว่า 1 เครื่อง และเน้นการใช้งานเครื่องโทรศัพท์ Smartphone เพื่อ Data เป็นหลัก รวมแล้วถือว่า มีจำนวนไม่น้อย ดังนั้น ทั้งสองค่ายจึงเปิดให้บริการ “โปรโมชั่นหลัก” ที่เน้นการใช้งาน Data เป็นหลัก (ค่าโทรออกแอบแพง) เพื่อให้ลูกค้าสะดวกยิ่งขึ้น ประมาณว่าทำ “แพคเกจเสริม 3G” เปิดให้บริการเป็น “โปรโมชั่นหลัก” เสียเลย

ค่าย AIS ดูจะมีทางเลือกมากกว่า เพราะทุกโปรโมชั่นเปิดให้สิทธิทั้งในระบบรายเดือน และเติมเงิน ด้านราคาก็ถือว่า ยกเอา “แพคเกจเสริม 3G” มาทำเป็น “โปรโมชั่นหลัก” แบบตรงๆ มีครบทุกราคา ไม่เว้นแม้กระทั่งแพคเกจ 150 บ. ที่ให้ 3G/EDGE แบบ Time Based ที่ 30 ชม. (จำกัดความเร็ว 3G สูงสุดที่ 1 Mbps) ก็มีเช่นกัน ทุกโปรโมชั่น กำหนดค่าโทร Voice Call และ Video Call ที่นาทีละ 1.5 บ.  ค่า SMS 2 บ. และ ค่า MMS 4 บ.

โปรโมชั่นที่ให้ 3G/EDGE แบบไม่จำกัด มีการ Limit 3G เต็มความเร็วที่ 3GB เช่นเดียวกับแบบแพคเกจเสริม แต่ก็ยังมีโปรโมชั่นเพิ่มอีกหนึ่งรายการ คือ 899 บ. เพิ่มฟรี e-Magazine 10 เล่ม นาน 3 เดือน มาให้แฟน Tablet อีกหนึ่งทางเลือก (แอบสงสัยให้ฟรี 3 เดือน แล้วเดือนที่ 4 ถ้าต้องจ่าย 899 บ. ก็แย่นะ)

ค่าย DTAC มาแปลกกว่า แบบทำให้ลูกค้าสับสนเล็กน้อย ไม่ได้เอา “แพคเกจเสริม 3G” มาตรงๆ แต่เพราะเชื่อว่า Air Card / Tablet น่าจะ Need มากกว่า จึงเพิ่มปริมาณ 3G/EDGE มาให้ (พร้อมเพิ่มราคา) คือ โปรโมชั่น 299 บ. ได้ 3G/EDGE 500 MB (ในขณะที่มีแพคเกจเสริม 199 บ. ได้ 3G/EDGE 250 MB) และมีโปรโมชั่น 399 บ. ได้ 3G/EDGE 1.5GB (ในขณะที่มีแพคเกจเสริม 349 บ. ได้ 3G/EDGE 1GB) แยบยลมาก

นอกจากนี้ ค่าย DTAC ยังเอาแพคเกจเสริม แบบใช้ได้ไม่จำกัด มาเพิ่มลูกเ่ล่น (พร้อมเพิ่มเงินอีกด้วย) อย่างแพคเกจเสริม 650 บ. ได้ 3G/EDGE 3GB พอมาเป็นโปรโมชั่นหลัก ราคาเดียวกับ 650 บ. ให้ 3G/EDGE เป็นไม่จำกัด แต่ Limit 3G เต็มความเร็วที่ 3GB เสียเลย

ส่วนโปรโมชั่น 790 บ. ได้ 3G/EDGE ไม่จำกัด แต่ Limit 3G เต็มความเร็วที่ 5GB ก็เหมือนกับแบบแพคเกจเสริม แต่ก็ยังอุตส่าห์เพิ่มอีกหนึ่งโปรโมชั่น เอาใจขาโหลด กลัว 5GB ไม่พอ เปิดโปรโมชั่น 999 บ. ได้ 3G/EDGE ไม่จำกัด แต่ Limit 3G เต็มความเร็วถึง 7GB เลยทีเดียว

____________________

โปรโมชั่น iPhone

ทั้งสองค่าย ต่างเอาใจแฟน iPhone เช่นกัน หลังจากเปิดให้บริการ 3G แล้ว ต่างก็ปรับให้โปรโมชั่น iPhone รวมการใช้บริการ 3G ได้ด้วย (ไม่ได้ มีการปรับโปรโมชั่นแต่อย่างใด) ด้วยความที่โปรโมชั่น iPhone ของ DTAC มีค่ารายเดือนที่ต่ำกว่า (580 บ. / 699 บ.) จึงเห็นโปรโมชั่นรายการที่ให้ 3G/EDGE แบบไม่จำกัด มีการ Limit 3G เต็มความเร็วไว้ที่ 1GB ในขณะที่ค่าย AIS (839 บ. / 899 บ.) มีการ Limit 3G เต็มความเร็วที่ 2GB

ค่าย AIS จุดขายหลักๆ เห็นจะเป็นโปรโมชั่นรายเดือนต่ำสุด เพียง 275 บ. หลายคนเลือกโปรโมชั่นนี้ เพื่อส่วนลดค่าเครื่อง ที่ประหยัดได้หลายตังค์อยู่ ส่วน 3G/EDGE ที่ให้มาแค่ 150 MB ซึ่งอาจไม่พอ ก็ค่อยไปดูแพคเกจเสริมกันอีกที

ค่าย DTAC  แฟนๆ ยังประทับใจกับโปรโมชั่น iPhone ที่ให้ 3G/EDGE แบบไม่จำกัดอยู่ดี เพราะมีให้เห็นที่ราคา 580 บ. แถมได้โทรฟรี , SMS ฟรี , MMS ฟรี อีกต่างหาก

____________________

โปรโมชั่น Blackberry

ด้วยความที่แพคเกจเสริม EDGE แบบไม่จำกัด เป็นฐานของแพคเกจ Blackberry แบบ EDGE ไม่จำกัดอยู่เช่นกัน พอแพคเกจเสริมปรับให้เป็น 3G/EDGE ไม่จำกัดด้วย ก็เลยทำให้แพคเกจ Blackberry ถูกปรับให้ใช้บริการ 3G ได้ด้วย

ค่าย AIS ต้อนรับ 3G ด้วยการปรับแพคเกจ 450 บ. ที่เคยให้ EDGE 50 MB เป็นโปรโมชั่น 500 บ. ให้ 3G/EDGE เป็น 300 MB ซะเลย นอกจากนี้ทุกแพคเกจ ยังเปิดให้บริการ BBM , Social Network หรือ Email ได้พบกับ 3G ด้วยความเร็วสูงสุด 1 Mbps อีกด้วย ส่วนแพคเกจ 799 บ. ที่ให้ 3G/EDGE ไม่จำกัด ก็มีการ Limit 3G เต็มความเร็วไว้ที่ 2GB (น้อยกว่าแบบแพคเกจเสริม 3G ที่ให้ Limit เต็มความเร็วที่ 3GB)

ค่าย DTAC  ดูจะมีใจให้ Blackberry น้อยกว่า เพราะให้บริการ BBM , Social Network หรือ Email ที่ความเร็ว 384 Kbps (ซึ่ง DTAC ก็บอกความจริง ว่าเป็นความเร็ว 3G อะนะ) ส่วนแพคเกจทีให้ 3G/EDGE แบบไม่จำกัด ก็มีการ Limit 3G เต็มความเร็วที่ 2GB เช่นเดียวกับค่าย AIS

นอกจากโปรโมชั่น และแพคเกจ ที่ทั้งสองค่าย ต่างจัดมาต้อนรับการเปิดให้บริการ 3G แล้ว ในส่วนลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่การให้บริการ 3G หรือ เครื่องโทรศัพท์ไม่รองรับบริการ 3G ก็ยังมีแพคเกจเสริม EDGE เปิดให้บริการอยู่อีกหลายทางเลือกนะครับ  โดยเฉพาะแพคเกจที่คิดตามระยะเวลาการใช้งาน (Time Based) หวังว่า รีวิว นี้ จะเป็นประโยชน์อยู่บ้างนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจครับ

____________________

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนุกกับ “นายอบอุ่น” ทาง Facebook ด้วยนะครับ “นายอบอุ่น” แจกตั๋วหนังฟรี !!! มิตรภาพดีๆ ที่มีให้กันบนโลกออนไลน์ ลุ้นง่ายๆ ได้ฟรีๆ ครับ  http://www.facebook.com/NaiAobAoon

รีวิว แพคเกจ AIS 3G จัดเต็มที่ 900 MHz !!!

หลังจาก (จำใจ) ปล่อยให้ค่ายอื่นแอบเปิดให้บริการ 3G ไปล่วงหน้าแบบข้ามปี และผิดหวังกับ 3G 2100MHz ที่ไม่คืบหน้า ล่าสุด AIS ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บริการ 3G ลุยบนคลื่นความถี่ 900 MHz ที่มีอยู่เดิม แบบเต็มตัวเสียทีนะครับ

งานนี้เรียกว่า ปรับวิกฤติให้เป็นโอกาสแืท้ๆ เพราะกว่า 90% ของมือถือที่รองรับ 3G ในบ้านเรา ก็รองรับ 3G 900 MHz อยู่แล้ว เมื่อลูกค้าพร้อมใช้ ก็ได้เวลา AIS พร้อมให้บริการหละ ว่างั้น

ก่อนหน้านี้ ถ้าพูดถึง Internet หรือ GPRS Package เราคงคุ้นเคยกับแพคเกจ แบบคิดตามระยะเวลาใช้งาน ทั้งๆที่ EDGE/GPRS มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลไม่มาก คิดเป็นนาที ดูเหมือนผู้ให้บริการมือถือ จะได้ประโยชน์ แต่ลูกค้าดันชอบเพราะเข้าใจง่ายอะนะ ก็เลยไปกันได้อะนะ

แต่พอเป็น 3G จะเห็นว่าแพคเกจหน้าตาเปลี่ยนไปนะครับ ผู้ให้บริการมือถือส่วนใหญ่จะปรับเป็น แบบคิดตามปริมาณการรับ-ส่งข้อมูล (MB/GB) อันนี้ต้องทำใจและปรับพฤติกรรมการใช้งานดูครับ

ใครใช้เครื่องโทรศัพท์ Smartphone ลองศึกษาดู จากเดิมที่ใช้แพคเกจ EDGE/GPRS แบบคิดตามระยะเวลาใช้งาน ถ้าไม่ใช่ Unlimited ก็ต้องคอย ปิด-เปิด GPRS แต่พอเป็นแพคเกจ แบบคิดตามปริมาณการรับ-ส่งข้อมูล ถ้าเลือกแพคเกจที่ตรงกับการใช้งาน ก็เปิด Data ได้ตลอดเวลา (Always on) กันเลยทีเดียว

ก่อนไปดูแพคเกจ พามารู้จัก 3G AIS ผ่าน FAQ นี้ก่อน

ประมาณว่า AIS ขอออกตัวไว้ก่อน เดี๋ยวไม่เจอความเร็ว 21.6 Mbps แล้วจะมาว่ากันทีหลังอะนะ

และอีกเรื่องที่ AIS ดูจะทำการบ้านมาดี คือ การเปิดให้บริการแพคเกจ 3G แบบ Unlimited แบบมีเงื่อนไขควบคุมความเร็วเมื่อใช้เกินปริมาณที่กำหนด ซึ่งก็เป็นมาตรฐาน เพื่อความเป็นธรรมทั้งผู้ให้บริการ และลูกค้าอะนะ เลยต้องขออธิบายไว้ก่อน ก็ดีครับตรงไปตรงมาดี

ในช่วงเดือนกว่าๆ ที่ AIS ได้ทดลองปล่อย 384 Kbps มาให้ใช้กัน หลายคนก็ประทับใจอยู่นะครับ งานนี้ใครสมัครแพคเกจ 3G แบบ Unlimited (ที่ 7.2 Mbps) ถ้าใช้เกิน 3GB แล้วจะถูกปรับความเร็วเหลือ 384 Kbps ก็น่าจะทำใจได้นะครับ

ไม่ได้สมัครแพคเกจ 3G ก็ได้ปรับความเร็ว EDGE เป็น 384 Kbps

เป็นข่าวดีของลูกค้าเดิมในเครือข่ายนะครับ ถ้าอยู่ในพื้นที่ให้บริการ 3G แม้ไม่ได้สมัครแพคเกจ ก็จะได้รับการปรับความเร็วเป็น 384 Kbps ให้โดยอัตโนมัติ ประมาณว่า เชิญชวนให้พบกับประสบการณ์ 3G เผื่อติดใจในความเร็วก็จะได้ไปสมัครแพคเกจ 3G เพื่อที่จะได้เร่งสปีดไปถึง 7.2 Mbps กันอะครับ (ชอบ AIS เปิดตัว 3G ก็ตรงที่ Up Speed EDGE ให้ลูกค้า้ด้วยนี่แหละ)

AIS 3G แพคเกจเริ่มต้นที่ 150 บาท

เป็นแพคเกจเสริมนะครับ ใช้ได้ทั้ง 3G และ EDGE เลย ถ้าอยู่ในพื้นที่ให้บริการ 3G ก็ได้เรื่องความเร็ว แต่เวลาออกนอกพื้นที่ก็ยังใช้ EDGE ได้ และอยู่ในแพคเกจเดียวกันเสียด้วย  ซึ่งแตกต่างจากแพคเกจของ True นะครับ ที่แยกว่าใช้ 3G ได้เท่าไหร่ ใช้ EDGE (2G) ได้เท่าไหร่ ไม่รวมกัน

แพคเกจ 150 บาท ใช้ 3G/EDGE ได้ 150 MB (ปรับแพคใหญ่ขึ้น แต่ให้ MB มากขึ้นเยอะนะครับ เดิม 99 บาท ได้ EDGE 30 MB เอง) แพคเกจ 350 บาท ให้ 3G/EDGE ถึง 1GB เลย เร้าใจดีแท้ (เดิมถ้าใครจำได้ แพคเกจ 400 B. เพิ่งได้ EDGE 500 MB เองนะ) แพคเกจ 550 บาท ให้ 3G/EDGE เป็น 2GB เลย (เดิมที่ได้ EDGE 1 GB)ส่วนแพคเกจ 799 บาท เดิม Unlimited EDGE + Wi-Fi งานนี้ก็ให้ Unlimited 3G ด้วย แต่มีเงื่อนไขปรับความเร็วเหลือ 384 Kbps เมื่อใช้เกิน 3GB นะครับ ไม่ได้ขึ้นราคา แต่ให้ใช้ 3G ได้ด้วย ถือว่าเปิดตัว 3G ครั้งนี้ AIS จัดเต็มดีแท้ครับ แต่เห็นเพิ่ม MB/GB ให้เยอะ อย่าลืมนะครับ 3G มันมีความเร็ว ใช้เพลินๆระวังแพคเกจจะหมดไม่รู้ตัว ช่วงแรกหมั่นเช็คยอดใช้ด้วยนะครับ

แพคเกจ 3G สำหรับผู้ใช้ iPad/Tablet

นอกจากเน้นไปยังมือถือ 3G แล้ว ก็ยังจัดแพคเกจต้อนรับ Tablet อีกด้วย ไหนๆ จอใหญ่แล้ว แถมพ่วง e-Magazine ให้อีก 10 เล่มนาน 3 เดือนเลย (ถ้าใครจำได้ใน App “AIS BookStore” จะมีให้ใส่ Promotion Code สำหรับผู้ที่สมัครแพคเกจ 3G) นั่นก็คือ แพคเกจ 899 บาท นี่เองครับ (รีวิว App “AIS BookStore”)

แพคเกจ 3G สำหรับผู้ใช้ iPhone (ซึ่งก็คือโปรโมชั่นหลัก iPhone ระบบ GSM นั่นแหละ)

ใครใช้โปรโมชั่น iPhone ก็ได้รับการปรับให้สิทธิใช้งาน EDGE/GPRS เดิม สามารถใช้ร่วมกับ 3G ได้ด้วยนะครับ มีเงื่อนไขสำหรับโปรโมชั่นที่ได้ 3G/EDGE แบบ Unlimited คือ ถ้าใช้เกิน 2GB จะถูกปรับความเร็วเป็น 384 Kbps นะครับ

แพคเกจ 3G สำหรับผู้ใช้ Blackberry

ดูจากตารางแล้ว พาลจะให้เข้าใจผิดว่า Blackberry 300 บ. (ที่ได้ Facebook หรือ E-mail) ที่บอกว่าใช้ 3G/EDGE ได้ไม่จำกัด จะเข้าใจว่า ใช้ออก Net ได้ไม่จำกัดนะครับ แต่ความจริงน่าจะสื่อว่า “ใช้ BBM หรือ Facebook หรือ Email ได้แบบไม่จำกัด บนความเร็ว 3G ที่ 384 Kbps อะนะ”

และที่เห็นมาใหม่ ก็คงจะเป็น Blackberry 500 บ. ใช้ AIS Internet ได้ 300 MB  (มาแทนแพคเดิม 450 บ. ที่ให้ใช้ Internet ได้แค่ 50 MB อะนะ) ตามดอกจันท้ายตาราง น่าจะสื่อว่า Blackberry 500 บ. และ 799 บ. จะใช้ความเร็วบน 3G ได้สูงสุดที่ 1 Mbps นะครับ และเมื่อแพค 799 บ. ใช้เกิน 2GB จะถูกปรับความเร็ว 3G ลงมาเป็น 384 Kbps นะ

AIS 3G  แบบ Net SIM (เป็นโปรโมชั่นหลัก)

ใครอยากแยกซิมใช้ Data เป็นโปรโมชั่นหลัก ก็มีแพคเกจ 3G ให้เลือกเหมือนกันครับ (ประมาณว่าใช้เป็น Net SIM ) จากตารางจะพบว่า 3G มีแบบคิดเป็นนาทีด้วยครับ  แต่มีแพคเกจเดียว คือ รายเดือน 150 บ. ใช้ได้ 30 ชม. มีเงื่อนไขจำกัดความเร็วสูงสุดที่ 1 Mbps นะ

ถือว่าเป็นข่าวดีของ Air Card นะครับ เพราะเวลาใช้งานกับ Notebook หรือ PC ถ้าคิดเป็น MB คงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน มีแบบ 30 ชม. แม้ความเร็วสูงสุดแค่ 1 Mbps ก็ยังดีกว่าไม่มีทางเลือกนะครับ

ใครอยากเปิดเบอร์ใหม่ใช้ Net SIM 3G เริ่มต้นที่ 69 บาท

มีทั้งแบบรายเดือน และเติมเงิน และถ้าเลือกเป็นแพคเกจแบบคิดตามระยะเวลาใช้งาน ความเร็วของ 3G/EDGE จะถูกกำหนดสูงสุดที่ 1 Mbps นะครับ

จัดเต็มจริงมีโปรโมชั่น 3G ให้กับ Aircard และ Pocket WiFi ด้วย

เงื่อนไขเดียวกันนะครับ ถ้าเป็นแพคเกจ แบบคิดตามระยะเวลาใช้งาน ก็จะจำกัดความเร็วของ 3G/EDGE ไว้สูงสุดที่ 1 Mbps และถ้าเป็นแบบ Unlimited เมื่อใช้เกิน 3GB ก็จะถูกปรับความเร็วลงมาที่ 384 Kbps เช่นกัน

สำหรับลูกค้านอกพื้นที่ให้บริการ AIS 3G หรือรู้สึกว่าแพคเกจ 3G ยังไม่โดนใจ

นอกจากข่าวดีที่ว่าใครอยู่ในพื้นที่ให้บริการ AIS 3G ได้ปรับความเร็ว EDGE เป็น 384 Kbps แล้ว ก็ให้พบกับการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างนะครับ คือ EDGE Data แพคเกจเสริมที่เลือกได้ ล้วนเป็นแบบคิดตามระยะเวลาการใช้งาน เท่านั้นครับ

ถ้าต้องการใช้แพคเกจเสริม แบบคิดตามปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่ง ก็ต้องสมัครแบบแพคเกจ 3G ครับ เพราะเอามาใช้บน EDGE ได้ด้วย ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ OK นะครับ เพราะแพคเกจ 3G ใหม่ ถูกกว่า แพคเกจ EDGE เดิมที่คิด แบบตามปริมาณการใช้งานการรับ-ส่งข้อมูล เสียอีก

สรุป  AIS 3G แพคเกจที่เปิดตัวใหม่นี้ น่าสนใจไม่น้อยครับ แต่ก็เป็นของใหม่ที่ลูกค้าต้องปรับตัวกันไม่น้อยเช่นกัน เดิมคุ้นเคยกับแพคเกจที่ คิดตามระยะเวลาใช้งาน พอเป็น 3G คิดตามปริมาณการใช้งานการรับ-ส่งข้อมูล เล่นเิอามึนงงเลยว่า ต้องใช้กี่ MB กี่ GB ถึงจะพอต่อการใช้งาน

แต่งานนี้คงไม่ใช่เฉพาะลูกค้าที่ต้องลองนะครับ เพราะเห็น AIS ทิ้งท้ายไว้ว่าแพคเกจ 3G ที่ว่านี้ สมัครได้ถึง 31 สิงหาคม 2554 เท่านั้น สงสัยเป็นช่วงทดสอบตลาดดูว่าลูกค้าให้การตอบรับแค่ไหน และที่สำคัญคู่แข่งจะจัดหนักกลับมาหรือเปล่า ทั้งหมดลูกค้าก็ล้วนได้ประโยชน์นะครับ อย่างน้อยก็ดีใจที่ 3G บ้านเรามีความคืบหน้าแล้วอะครับ

เพิ่มเติมข้อมูลพื้นที่ให้บริการของ AIS 3G นะครับ

_______

ติดตาม ข่าวสาร สาระ ความรู้ ความบันเทิง บนโลกอินเตอร์เน็ท ที่ “นายอบอุ่น” นำมาแบ่งปันอีกเพียบ ได้ที่

Facebook ->  http://www.facebook.com/NaiAobAoon

Twitter ->  http://twitter.com/NaiAobAoon

หรือ มีึคำแนะนำ ติชม อยากติดต่อ “นายอบอุ่น” ก็ได้นะครับ Email ->  NaiAobAoon@hotmail.com